นายกฯ เผย ครม.เทงบพัฒนา 4 จังหวัดอีสานใต้ 496 ล้าน

วันนี้ (2 ก.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงประเด็นเรื่องโค ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้ามาช่วยดูแลพัฒนาสายพันธุ์และมาตรฐานการผลิต รวมถึงโรงเชือดและขอให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ เร่งแก้ปัญหาเรื่องราคาและเจรจาเปิดการค้าต่างประเทศที่มีศักยภาพ เช่น ประเทศซาอุดีอาระเบีย และประเทศจีน

 นายกฯ กล่าวอีกว่าหลายพื้นที่ในภาคอีสานหรือล่าสุดที่จังหวัดภูเก็ต ยังมีปัญหาเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้งซ้ำซาก สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนอย่างมาก เมื่อวันอังคารที่ 25 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณกว่า 7,600,000 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วม ขอให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน เร่งพิจารณาการดำเนินโครงการตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงสภาพปัญหาความเร่งด่วนและสถานการณ์ในพื้นที่ประกอบกันด้วย ขอให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยบูรณาการร่วมกันกับกรมชลประทาน ในการจัดเตรียมแผนการรับมือและแนวทางการบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด

อ่านข่าว : เศรษฐา นำทีมบุกโคราช ดันฟื้นทุกมิติ เศรษฐกิจ-แหล่งน้ำ-ท่องเที่ยว-คมนาคม

นายกฯ กล่าวอีกว่า ครม.เห็นชอบในหลักการโครงการของกลุ่มจังหวัดและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์) จำนวน 16 โครงการ กรอบวงเงิน 249 ล้านบาท โดยให้กลุ่มจังหวัดแต่ละจังหวัดของบจัดสรรงบกลาง ปี 2567 และเห็นชอบในหลักการของโครงการข้อเสนอของภาคเอกชนจำนวน 8 โครงการ กรอบวงเงิน 247.15 ล้านบาท โดยให้ส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการขอรับการจัดสรรจากงบประมาณในปี 2567

นายกฯ กล่าวอีกว่า ครม. รับทราบอนุมัติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอในการจัดตั้งคณะกรรมการโดยการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จ.นครราชสีมา ปี 2572 ที่ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน นายกฯ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของหน่วยงานต่างๆ ไปพิจารณาและดำเนินการให้เสร็จทันทัน ในปี 2572

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า เตรียมจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งต่อไปที่ จ.อยุธยา โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้เสนอจัดการประชุมในการกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง (นนทบุรี ปทุมธานี สระบุรี นครนายก)

ที่มา https://www.thaipbs.or.th/news/content/341615